|
Top Ten Breakfast
Breakfast (meaning "breaking the fast" of the night)
is the first meal taken after rising from a night's sleep, most often eaten
in the early morning before undertaking the day's work.
Among English speakers, "breakfast" can be used to refer to this meal,
or,less commonly, to refer to a meal composed of traditional breakfast
foods (eggs, oatmeal, sausages, etc.) served at any time of day.
อาหารเช้าเป็นหนึ่งใน มื้ออาหารซึ่งจะรับประทานก่อน อาหารกลางวันหรือ
อาหารเย็น ส่วนใหญ่อาหารเช้าจะรับประทานในตอนเช้า หลังจากตื่นนอน
บางคนรับประทานค่อนข้างเช้าก่อนไปทำงาน ในหมู่ชาวอังกฤษ
อาหารเช้าหมายถึงมื้ออาหารที่นิยมรับประทานในมื้อเช้า
เช่น ไข่ ข้าวโอ๊ต ไส้กรอก เป็นต้น
|
|
|
ความสำคัญของอาหารเช้า
เคยมีคำพูดเปรียบเทียบไว้ว่า อาหารมื้อเช้า ให้กินอย่าง ราชา
อาหารมื้อกลางวัน ให้กินอย่าง กรรมกร อาหารมื้อเย็น ให้กินอย่าง ยาจก
หรือ อาหารมื้อเช้า บำรุงสมอง อาหารมื้อกลางวัน บำรุงกำลัง
อาหารมื้อเย็น บำรุงเพศ
หรือจากชาวเกาหลี อาหารมื้อเช้า 40 – 50 %
อาหารมื้อกลางวัน 30 – 40 % อาหารมื้อเย็น 10 – 20 %
แต่ในปัจจุบัน ด้วยสาเหตุใดก็ตาม คนส่วนใหญ่กลับทำตรงกันข้าม
ความสำคัญของอาหารมื้อเช้า คือ
- เวลาที่เหมาะสมที่สุดในการรับประทานอาหารมื้อเช้าคือ
7.00 – 9.00 น
เพราะเป็นช่วงเวลาที่กระเพาะอาหาร เริ่มทำงาน
- ถ้าไม่มีอาหารลงไปในกระเพาะ การบีบรัดตัวของกระเพาะ
จะไปเอาอุจจาระกลับเข้ามาย่อยซ้ำ
-
สารที่ย่อยจะถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือด ทำให้ร่างกายได้รับสารพิษ
จากอุจจาระ(แทนที่จะเป็นสารอาหารที่มีประโยชน์)
ฉะนั้น คนที่ท้องผูกบ่อย
อุจจาระที่ถ่ายออกมา
จะเป็นเม็ดแข็งเพราะถูกย่อยซ้ำและถูกดูดน้ำออกไปซ้ำอีก
ผลเสียของการไม่รับประทานอาหารมื้อเช้า
- ร่างกายขาดสารอาหารที่จำเป็นในการเสริมสร้างพลังงานและ
ซ่อมแซมสิ่งที่สึกหรอ
- เลือดไม่สะอาด ทำให้อวัยวะต่างๆไม่แข็งแรง
- สมองไม่ได้รับสารอาหารเพียงพอ ทำให้ไอคิวต่ำ เฉื่อย
ขาดความว่องไว
ความจำไม่ดี ขาดความกระตือรือร้น
-
ถ้าไม่ได้รับประทานอาหารเช้าเป็นเวลานาน
กระเพาะจะไม่แข็งแรง
การขับถ่ายไม่ดี ตัวเหลว กล้ามเนื้อเหลว ผิวเหี่ยวและคล้ำ
แก่เร็ว ภูมิต้านทานลด ปวดหัว ปวดเข่า
ความจำเสื่อม เป็นอัลไซเมอร์
ถ้าไม่สะดวกในการรับประทานอาหารเช้า แค่ โยเกิร์ต 1 ถ้วย
กับกล้วยน้ำว้า 1
ลูกก็ยังดี โยเกิร์ตดีสำหรับกระเพาะและลำไส้
กล้วยน้ำว้าอุดมด้วยโปรตีนและวิตามิน
เอ ซี และอี และย่อยง่าย
ควรมีกล้วยน้ำว้าติดบ้านเสมอ
การดื่มกาแฟแทนอาหารเช้าไม่ได้ประโยชน์
และอาจเป็นโทษด้วยจากสารคาเฟอีน
|
อาหารเช้าถือเป็นหนึ่งมื้อสำคัญ
ที่ต้องรับประทาน
เพื่อที่จะได้พลังงาน ไว้เผาพลาญในการใช้ชีวิต |
|
|
อาหารเช้าอันดับที่ 10 ได้แก่ เป็นเนยแข็งที่ไขมันต่ำแถมยังให้
โปรตีนและแคลเซียมสูง
Mozzarella refers to any of several kinds of Italian cheeses that are
made by spinning and then cutting (hence the name, as the
Italian verb mozzare means "to cut").
- Mozzarella di Bufala (buffalo mozzarella), made from
- domesticated water buffalo milk
- mozzarella fior di latte, made from fresh pasteurized or
- unpasteurized cow's milk
- low-moisture mozzarella, which is made from whole or part
- skimmed milk, and widely used in the food-service industry
- mozarella affumicata (smoked mozzarella)
|
|
|
|
|
อาหารเช้าอันดับที่ 9 ได้แก่ เนื้อสัตว์บางๆ ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือก
ที่ให้พลังงานในยามเช้า นอกเหนือจากไข่
Meat is animal flesh that is eaten as food.
Generally, this means the skeletal muscle and associated
fat and other tissues
Often, meat is used in a more restrictive sense – the flesh of
mammalian species (pigs, cattle, lambs, etc.) raised and prepared
for human consumption,to the exclusion of fish and other seafood,
poultry, and other animals.
|
|
|
|
|
อาหารเช้า
อันดับที่ 8 ได้แก่ โยเกิร์ต
ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยได้เห็นการ
ใช้โยเกิร์ตปรุงอาหาร
แต่โยเกิร์ตนี่แหละเป็นแหล่งที่ดีของแคลเซียมและโปรตีน
Yogurt or yoghurt is a dairy product produced by bacterial
fermentation of milk. The bacteria used to make yogurt are known
as "yogurt cultures".
Fermentation of lactose by these bacteria produces lactic acid,
which acts on milk protein to give yogurt its texture and
its characteristic tang.[1]
Worldwide, cow's milk is most commonly used to make yogurt,
but milk from water buffalo, goats, ewes, mares, camels,
and yaks is also used in various parts of the world.
|
|
|
|
|
อาหารเช้า
อันดับที่ 7 ได้แก่ ถั่วและเมล็ดเมล็ดฟักทอง
นั้นมีส่วนโปรตีน
วิตามินอีและกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่ทำหัวใจแข็งแรง
รวมถึงไขมันโอเมก้า 3
|
|
|
|
|
อาหารเช้า
อันดับที่ 6 ได้แก่ โดยทั่วไปแล้วผลไม้นั้นเต็มไปด้วยใยอาหาร
(ลูกแพร์,
แอปเปิ้ล, เบอร์รี่, และ กีวี), ขณะที่พวกที่มีวิตามินซีก็คือ
(มะละกอ,
ส้ม),ส่วนผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระต้านโรค (สตรอเบอร์รี่,
บลูเบอร์รี่
และ blackberries) ทางด้าน กล้วย ก็มี
เซลล์และโปแตสเซียม
ที่สร้างกล้ามเนื้อ
|
|
|
|
|
อาหารเช้า
อันดับที่ 5 ได้แก่ ผักโขม,ผักคะน้า หรือผักใบเขียวชนิดอื่นๆ
ทั้งหมดนี้ถือว่ามีเส้นใยอาหาร เกลือแร่,สารต้านอนุมูลอิสระ
ไปจนกระทั่งถึงวิตามิน |
|
|
|
|
อาหารเช้าอันดับที่ 4 ได้แก่ เป็นธัญพืชที่ช่วยสร้างความมั่นคงระดับน้ำตาลในเลือด และเติมเต็มคุณไปจนถึงอาหารมื้อต่อไป |
|
|
|
|
อาหารเช้า
อันดับที่ 3 ได้แก่
เนยถั่วทำจากถั่วเช่นอัลมอนด์เม็ดมะม่วง
หิมพานต์และถั่วลิสงถือว่าเต็มไป
ด้วยวิตามินอีโปรตีนแมกนีเซียม
แคลเซียมและโพแทสเซียม
หากใครที่กังวลในเรื่องไขมัน
เนยถั่วนั้นช่วยคุณได้ นอกจากนั้นในเนยถั่วยังมีไขมันดีอีกด้วย
|
|
|
|
|
อาหารเช้า
อันดับที่ 2 ได้แก่ ข้าวโอ๊ตถือว่ามีวิตามินและแร่ธาตุ
รวมทั้งเส้นใยโปรตีน และให้พลังงานอย่างสูง และช่วยเรื่องความจำ
เพราะในหนึ่งวันนั้นมีเรื่องให้เราต้องจำเยอะ |
|
|
|
อาหารเช้า
อันดับที่ 1 ได้แก่ ไข่ เพราะไข่ให้ พลังงานสูง
และมีแคลอรี่
รวมทั้งมีสารอาหารที่สำคัญมากกว่า 13 ชนิด รวมไปถึงวิตามินและสังกะสี
และช่วยระบบคุ้มกัน และการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อ
|
ที่มาข้อมูล : http://www.toptenthailand.com
http://www.cmadong.com
|
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น