No New Year's Day to celebrate
ไม่ใช่วันฉลองปีใหม่
No chocolate covered candy hearts to give away
ไม่มีห่อชอคโคแลทหรือลูกกวาดรูปหัวใจจะให้
No first of spring
ไม่ใช่วันแรกของฤดูใบไม้ผลิ
No song to sing
ไม่มีเพลงที่จะร้องให้ฟัง
In fact here's just another ordinary day
ซึ่งความจริงมันก็คือวันธรรมดา ๆ นั่นเอง
No April rain
ไม่มีฝนในเดือนเมษา
No flowers bloom
ไม่มีดอกไม้บาน
No wedding Saturday within the month of June
ไม่ใช่วันแต่งงานในวันเสาร์ของเดือนมิถุนายน
But what it is, is something true
แต่อะไรละ,มีความจริงบางอย่าง
Made up of these three words that I must say to you
ที่สร้างมาด้วยคำเพียงสามคำซึ่งฉันจะบอกกับเธอ
I just called to say I love you
ฉันแค่โทรมาเพื่อจะบอกว่า ฉันรักเธอ
I just called to say how much I care
ฉันแค่โทรมาเพื่อจะบอกว่า ฉันเป็นห่วงเธอแค่ไหน
I just called to say I love you
ฉันแค่โทรมาเพื่อจะบอกว่า ฉันรักเธอ
And I mean it from the bottom of my heart
ซึ่งความรู้สึกเหล่านี้มาจากก้นบึ้งของหัวใจฉัน
No summer's high
ไม่ใช่เพราะอากาศร้อนของฤดูร้อน
No warm July
ไม่ใช่เพราะความอบอุ่นของเดือน กรกฏาคม
No harvest moon to light one tender August night
ไม่ใช่พระจันทร์ในฤดูเก็บเกี่ยว ที่ให้แสงนุ่มนวลในค่ำคืนของเดือนสิงหาคม
No autumn breeze
ไม่มีสายลมอ่อน ๆ ในฤดูใบไม้ร่วง
No falling leaves
ไม่มีใบไม้ร่วงหล่น
Not even time for birds to fly to southern skies
ไม่่มีแม้แต่เวลาที่นกบินไปยังฝากฟ้าด้านใต้
No Libra sun
ไม่ใช่ตะวันในราศีตุลย์
No Halloween ไม่ใช่วันฮาโรวีน
No giving thanks to all the Christmas joy you bring
ไม่ใช่วันขอบคุณในวันคริสมาสที่สนุกสนานที่เธอได้มอบให้
But what it is, though old so new
แต่อะไรละ,ที่แม้เก่าแต่ก็ยังใหม่อยู่เสมอ
To fill your heart like no three words could ever do
ที่จะเติมเต็มหัวใจของเธอ ไม่มีคำใดที่จะเท่ากับสามคำนี้
I just called to say I love you
ฉันโทรมาเพียงเพื่อจะบอกว่า ฉันรักเธอ
I just called to say how much I care, I do
ฉันโทรมาเพียงเพื่อจะบอกว่า ฉันเป็นห่วงเธอจริง ๆ
I just called to say I love you
ฉันโทรมาเพื่อจะบอกว่า ฉันรักเธอ
And I mean it from the bottom of my heart
และฉันตั้งใจเอ่ยมาจากก้นบึ้งของหัวใจ
ไม่ใช่วันฉลองปีใหม่
No chocolate covered candy hearts to give away
ไม่มีห่อชอคโคแลทหรือลูกกวาดรูปหัวใจจะให้
No first of spring
ไม่ใช่วันแรกของฤดูใบไม้ผลิ
No song to sing
ไม่มีเพลงที่จะร้องให้ฟัง
In fact here's just another ordinary day
ซึ่งความจริงมันก็คือวันธรรมดา ๆ นั่นเอง
No April rain
ไม่มีฝนในเดือนเมษา
No flowers bloom
ไม่มีดอกไม้บาน
No wedding Saturday within the month of June
ไม่ใช่วันแต่งงานในวันเสาร์ของเดือนมิถุนายน
But what it is, is something true
แต่อะไรละ,มีความจริงบางอย่าง
Made up of these three words that I must say to you
ที่สร้างมาด้วยคำเพียงสามคำซึ่งฉันจะบอกกับเธอ
I just called to say I love you
ฉันแค่โทรมาเพื่อจะบอกว่า ฉันรักเธอ
I just called to say how much I care
ฉันแค่โทรมาเพื่อจะบอกว่า ฉันเป็นห่วงเธอแค่ไหน
I just called to say I love you
ฉันแค่โทรมาเพื่อจะบอกว่า ฉันรักเธอ
And I mean it from the bottom of my heart
ซึ่งความรู้สึกเหล่านี้มาจากก้นบึ้งของหัวใจฉัน
No summer's high
ไม่ใช่เพราะอากาศร้อนของฤดูร้อน
No warm July
ไม่ใช่เพราะความอบอุ่นของเดือน กรกฏาคม
No harvest moon to light one tender August night
ไม่ใช่พระจันทร์ในฤดูเก็บเกี่ยว ที่ให้แสงนุ่มนวลในค่ำคืนของเดือนสิงหาคม
No autumn breeze
ไม่มีสายลมอ่อน ๆ ในฤดูใบไม้ร่วง
No falling leaves
ไม่มีใบไม้ร่วงหล่น
Not even time for birds to fly to southern skies
ไม่่มีแม้แต่เวลาที่นกบินไปยังฝากฟ้าด้านใต้
No Libra sun
ไม่ใช่ตะวันในราศีตุลย์
No Halloween ไม่ใช่วันฮาโรวีน
No giving thanks to all the Christmas joy you bring
ไม่ใช่วันขอบคุณในวันคริสมาสที่สนุกสนานที่เธอได้มอบให้
But what it is, though old so new
แต่อะไรละ,ที่แม้เก่าแต่ก็ยังใหม่อยู่เสมอ
To fill your heart like no three words could ever do
ที่จะเติมเต็มหัวใจของเธอ ไม่มีคำใดที่จะเท่ากับสามคำนี้
I just called to say I love you
ฉันโทรมาเพียงเพื่อจะบอกว่า ฉันรักเธอ
I just called to say how much I care, I do
ฉันโทรมาเพียงเพื่อจะบอกว่า ฉันเป็นห่วงเธอจริง ๆ
I just called to say I love you
ฉันโทรมาเพื่อจะบอกว่า ฉันรักเธอ
And I mean it from the bottom of my heart
และฉันตั้งใจเอ่ยมาจากก้นบึ้งของหัวใจ
ไม่เคยเห็นพลุในวันปีใหม่
ไม่เคยเห็นว่าฝนที่ตกกลางเดือนเมษายน
อันแสนจะร้อนระอุนั้น ชุ่มฉ่ำขนาดไหน
และไม่เคยเห็นต้นไม้ที่เริ่มผลิใบอ่อน
อันแสนจะร้อนระอุนั้น ชุ่มฉ่ำขนาดไหน
และไม่เคยเห็นต้นไม้ที่เริ่มผลิใบอ่อน
ตอนต้นฤดูใบไม้ผลิมาก่อน
เพราะเขาสูญเสียการมองเห็นตั้งแต่แรกเกิด
แต่เขากลับรู้ว่าสิ่งเหล่านี้สามารถนำความสดใส
ความประหลาดใจ และความสุข
มาสู่หัวใจของคนเราได้ ไม่ต่างจากการได้ฟัง
ความประหลาดใจ และความสุข
มาสู่หัวใจของคนเราได้ ไม่ต่างจากการได้ฟัง
ใครสักคนบอกรัก
เหมือนที่เขาบรรยายไว้ในเพลง
I Just Called To Say I Love You
- New words from the song
celebrate = งานสมโภชน์,ฉลอง,เฉลิม,ประกอบพิธี
ordinary = โดยปกติ,ธรรมดา,สามัญ
ordinary day วันธรรมดา ๆ ซึ่งไม่ใช่วันเทศกาล
mean = จำนวนกลาง,ใจแคบ,เจตนา,มุ่งหมาย
harvest = ฤดูเกี่ยวข้าว จำนวนสิ่งใด ๆ ที่
ได้,ผล
breeze = ความตื่นเต้น,ลมอ่อน ๆ
(ชื่อผงซักฟอกบรีส เขียนเหมือนกัน)
autumn = ฤดูไบไม้ล่วง
คนอเมริกันเรียก fall เมืองนอกจะมี 4 ฤดู คือ
1. ฤดูใบไม้ผลิ (21 มีค. - 20 มิย.)
2. ฤดูร้อน (21 มิย. - 21 กย.)
3.ฤดูใบไม้ร่วง (22 กย. - 21 ธค.)
4. ฤดูหนาว (22 ธค. - 20 มค.)
Libra = ราศีตุล เป็นภาษาลาติน แปลว่าสมดุลย์ ดุจตาชั่ง
Halloween = วันพิธีเล่นสนุกสนานในวันที่ 31 ตุลาคม
เป็นวันที่เชื่อว่า
มิติคนตายและคนเป็นเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน
ทำให้บรรดาผีทั้งหลายจะเข้าสิงสู่ในคนเป็น
จึงมีการแกะฟักทองเป็นรูปหน้าคนปิดไฟที่บ้านให้มืด
และแต่งตัวเป็นผี
http://www.youtube.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น